fbpx
nonverbal communication

Non-verbal Communication คือคำตอบ ว่าทำไมประโยคเดียวกัน แต่คนพูดคนละคน ได้ผลต่างกันลิบลับ?

เคยไหมที่คุณฟังคำพูดเดียวกันจากสองคน แต่รู้สึกต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว? การ Communication หรือการสื่อสาร ไม่ใช่แค่เรื่องของ “สิ่งที่พูด” แต่ยังรวมถึง “วิธีการพูด” และ “ใครเป็นคนพูด” ด้วย เรื่องนี้ชัดเจนในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเมือง หรือชีวิตประจำวัน คนสองคนอาจสื่อสารด้วยคำพูดเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ครั้งหนึ่ง ฉันอยู่ในห้องประชุมที่ต้องการความร่วมมือจากทีมต่างแผนก ผู้จัดการคนแรกเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่กลับทำให้บรรยากาศในห้องดูตึงเครียด ส่วนผู้จัดการอีกคน พูดประโยคเดียวกันเป๊ะ แต่ใช้โทนเสียงที่นุ่มนวลและมีความกระตือรือร้น ทุกคนในทีมกลับรู้สึกว่าอยากช่วยเหลือ และที่สำคัญ พวกเขายังมองว่าการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งที่น่าสนุก

ทำไมถึงเป็นแบบนี้? คำตอบอยู่ที่ศิลปะของการสื่อสาร ซึ่งเป็นเรื่องของความตั้งใจ ความเข้าใจ และความสามารถในการเชื่อมโยงกับผู้ฟัง

ศิลปะของโทนเสียงและอารมณ์ในการสื่อสาร

โทนเสียงที่ใช้ในการสื่อสารสามารถเปลี่ยนความหมายของคำพูดได้อย่างมาก ลองนึกภาพการพูดว่า “ขอบคุณมาก” ด้วยน้ำเสียงประชดประชัน เทียบกับน้ำเสียงที่จริงใจและอบอุ่น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นย่อมต่างกันอย่างสิ้นเชิง

คนที่มีทักษะการสื่อสารที่ดี มักจะเข้าใจว่าอารมณ์และน้ำเสียงเป็นตัวกำหนดว่าข้อความจะถูกตีความอย่างไร หากคุณสื่อสารด้วยความตั้งใจที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดี น้ำเสียงของคุณจะสะท้อนความจริงใจนั้นออกมา และทำให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อมโยงและพร้อมตอบสนองในทางบวก

ความน่าเชื่อถือของผู้สื่อสาร: ตัวแปรสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม

ในบางครั้ง คนที่พูดคือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ของการสื่อสาร ลองจินตนาการว่าคุณกำลังฟังหัวหน้าทีมที่คุณเคารพกับเพื่อนร่วมงานที่ไม่เคยทำงานตรงเวลา พูดถึงเรื่อง “การบริหารเวลา” คำพูดเดียวกันอาจทำให้คุณรู้สึกแตกต่างกันอย่างมาก

ผู้ฟังมักประเมินความน่าเชื่อถือของผู้พูดจากประสบการณ์ส่วนตัวและท่าทีของเขาในอดีต ดังนั้น คนที่สามารถสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือได้ มักจะสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

การเชื่อมโยงกับผู้ฟัง: การทำให้ข้อความมีพลัง

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การสื่อสารได้ผลลัพธ์ต่างกันคือความสามารถในการเชื่อมโยงกับผู้ฟัง คนที่สามารถพูดในสิ่งที่ผู้ฟังรู้สึกว่าสำคัญและเกี่ยวข้องกับตัวเขา จะทำให้ข้อความนั้นมีพลังมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ในการประชุมทีม หากหัวหน้าพูดว่า “งานนี้สำคัญต่อองค์กร” กับ “งานนี้สำคัญ เพราะมันช่วยให้ทีมของเราสร้างความสำเร็จที่เราร่วมกันตั้งเป้าไว้” แม้จะพูดถึงสิ่งเดียวกัน แต่ข้อความที่สองทำให้ทีมรู้สึกถึงบทบาทของตัวเองในภาพรวม และเพิ่มแรงจูงใจได้มากกว่า

สื่อสารเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ใช่แค่ส่งข้อความ

การสื่อสารที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของการถ่ายทอดข้อมูล แต่มันคือการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เกิดการกระทำ คนที่พูดด้วยพลังงานที่สร้างสรรค์และความตั้งใจที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง มักจะดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้ผู้ฟังอยากลงมือทำ

ผู้นำที่ยอดเยี่ยมในองค์กรใหญ่ ๆ ไม่ได้มีเพียงความรู้ที่ลึกซึ้งในสายงานของตัวเอง แต่ยังมีความสามารถในการทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า

การสื่อสารคือเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด

การ Communication ไม่ใช่เพียงเรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของการสร้างความเข้าใจ ความไว้วางใจ และการเชื่อมโยงกับผู้ฟัง คนสองคนที่พูดคำเดียวกันอาจได้ผลลัพธ์ต่างกันลิบลับ เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าใครพูดอย่างไร และพูดในบริบทไหน

การพัฒนาทักษะการสื่อสารคือการลงทุนที่ไม่เพียงช่วยให้คุณส่งข้อความได้ชัดเจนขึ้น แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ ความน่าเชื่อถือ และแรงบันดาลใจในทุกระดับของชีวิตและการทำงานของคุณ เพราะในท้ายที่สุด การสื่อสารที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของการพูด แต่คือศิลปะในการสร้างความเข้าใจและเปลี่ยนแปลงผู้ฟังในทางที่ดีที่สุด

Scroll to Top