Leadership ที่ขับเคลื่อนอนาคต ต้องนำด้วย “คำาม” มากกว่า “คำตอบ”

โลกวันนี้ไม่ได้ต้องการผู้นำที่ตอบได้ทุกอย่าง

ในอดีต ผู้นำที่ดีคือคนที่มีคำตอบในทุกสถานการณ์ แต่ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความซับซ้อน และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำที่พยายามตอบทุกคำถามเองกลับทำให้ทีมเคลื่อนไหวช้าลง

เพราะทุกการตัดสินใจต้องผ่านคนเดียว และทุกคนในทีมก็เริ่มกลัวที่จะคิดต่าง กลัวว่าจะผิดจากสิ่งที่ผู้นำคิดไว้ Leadership ในโลกยุคใหม่จึงไม่ใช่เรื่องของ “การมีคำตอบ” แต่คือ “การตั้งคำถามที่ดีพอให้ทีมคิดต่อได้”

การตั้งคำถามคือทักษะสำคัญของผู้นำยุคใหม่

คำถามที่ดีไม่ได้มีไว้เพื่อหาคำตอบทันที แต่เพื่อเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้ทีมได้คิด ผู้นำที่รู้จักตั้งคำถาม จะทำให้ทีมกล้าคิด กล้าถาม และกล้าทดลองมากขึ้น เพราะคำถามคือเครื่องมือที่สร้าง “พื้นที่ให้เรียนรู้” โดยไม่รู้ตัว

เช่น แทนที่จะถามว่า “ทำไมถึงพลาด” ผู้นำอาจถามว่า “เราจะทำให้ครั้งหน้าดีขึ้นได้ยังไง” คำถามแบบนี้ไม่ได้ชี้ผิด แต่ชวนคิดต่อ ทำให้ทีมรู้สึกปลอดภัย และพร้อมพัฒนา

“Leadership ที่ดีไม่ได้สร้างทีมที่เก่งที่สุด แต่สร้างทีมที่อยากเรียนรู้มากที่สุด”

ผู้นำที่ถามเป็น จะเห็นศักยภาพของทีมได้มากขึ้น

ในหลายองค์กร ผู้นำอาจไม่รู้ว่าทีมมีศักยภาพมากแค่ไหน เพราะพวกเขาไม่เคยถาม การถามเปิด เช่น “ตอนนี้คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่เราทำได้ดีกว่านี้” หรือ “ถ้าคุณเป็นลูกค้า คุณจะรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เราทำอยู่” ทำให้ทีมได้แสดงความคิด ได้ใช้มุมมองของตัวเอง และทำให้ผู้นำเห็นพลังที่ซ่อนอยู่ในแต่ละคน คำถามของผู้นำจึงไม่ใช่แค่เพื่อหาคำตอบ แต่เพื่อ “ดึงศักยภาพของทีมออกมา”

ผู้นำที่ฟังคำตอบได้ดี จะสร้างทีมที่กล้าพูด

Leadership ไม่ได้จบที่การถาม แต่เริ่มต้นที่ “การฟังคำตอบ” เพราะคำถามจะไม่มีค่าเลย หากผู้นำไม่เปิดใจรับสิ่งที่ทีมตอบ

ในหลายครั้ง คำตอบจากทีมอาจไม่ถูกใจผู้นำ อาจขัดกับสิ่งที่คาดหวัง แต่ถ้าผู้นำยังฟังด้วยความเข้าใจ ทีมจะรู้ว่าพื้นที่นี้ปลอดภัยสำหรับการพูดจริง ๆ เมื่อความไว้ใจเกิดขึ้น การสื่อสารภายในทีมจะเปลี่ยนจาก “รายงานผล” เป็น “การสนทนา” และจากจุดนั้น การเรียนรู้ร่วมกันจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ

การถามที่ดี ต้องมาพร้อมเจตนาที่จริงใจ

ผู้นำที่ถามเพียงเพื่อตรวจสอบ หรือเพื่อจับผิด จะทำให้ทีมปิดใจ แต่ผู้นำที่ถามเพราะอยากเข้าใจ จะทำให้ทีมเปิดใจ

ความต่างอยู่ที่ “เจตนา” ไม่ใช่ “คำพูด” คำถามเดียวกัน เช่น “ทำไมงานนี้ถึงช้า” ถ้ามาพร้อมน้ำเสียงตำหนิ มันคือการกดดัน แต่ถ้ามาพร้อมน้ำเสียงสนใจ มันคือการช่วยกันหาทางออก

“Leadership ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่คำถามที่พูด แต่คือเจตนาที่ซ่อนอยู่ในคำถามนั้น”

จากผู้นำที่สั่งการ สู่ผู้นำที่สร้างการเรียนรู้

ผู้นำที่ใช้คำถามเป็นเครื่องมือ จะเปลี่ยนบทบาทของตัวเองจาก “คนสั่ง” เป็น “โค้ช” พวกเขาจะไม่บอกคำตอบ แต่จะชวนทีมค้นหาคำตอบด้วยกัน สิ่งนี้ทำให้ทีมรู้สึกเป็นเจ้าของงาน และเรียนรู้วิธีคิดเชิงแก้ปัญหาอย่างแท้จริง เมื่อทีมเริ่มชินกับการคิดด้วยตัวเอง พวกเขาจะไม่รอให้ผู้นำสั่ง แต่จะเริ่ม “ขยับก่อน” นั่นคือจุดที่องค์กรเริ่มเคลื่อนไหวด้วยพลังของคน ไม่ใช่พลังของคำสั่ง

สุดท้าย Leadership คือการสร้างวัฒนธรรมของคำถาม

เมื่อผู้นำเริ่มถาม ทีมจะเริ่มคิด

เมื่อทีมเริ่มคิด องค์กรจะเริ่มเรียนรู้

และเมื่อองค์กรเริ่มเรียนรู้ มันจะเติบโตโดยไม่ต้องรอให้ใครมานำ

นี่คือจุดที่ Leadership เปลี่ยนจาก “การบริหารคน” เป็น “การขับเคลื่อนความคิด” และผู้นำที่ถามเป็น ฟังเป็น จะเป็นจุดเริ่มต้นขององค์กรที่ไม่หยุดพัฒนา

“คำถามของผู้นำที่ดี คือเชื้อไฟขององค์กรที่ไม่หยุดเรียนรู้”

หากองค์กรของคุณต้องการพัฒนา Leadership ให้ผู้นำกล้าถาม ฟังเป็น และสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ The Blacksmith พร้อมออกแบบโปรแกรมพัฒนาภาวะผู้นำที่ตอบโจทย์คนและองค์กรของคุณ คลิกลงทะเบียน

Scroll to Top