The Blacksmith_PRTR_Course Training

Course training จะไม่สูญเปล่า ถ้าออกแบบให้การเรียนรู้กลายเป็นพฤติกรรมในที่ทำงาน

ทำไม Course training มักถูกมองว่าเสียเปล่า

หลายองค์กรลงทุนจำนวนมากกับการจัด Course training พนักงานเข้าเรียนกันเต็มห้อง วิทยากรสอนเต็มวัน แต่พอเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ สิ่งที่เรียนก็เลือนหายไป เหลือเพียงเอกสารประกอบการอบรมที่ถูกเก็บไว้ในลิ้นชัก

สาเหตุสำคัญคือ การเรียนรู้ไม่เคยถูกแปลงเป็นพฤติกรรมจริงในที่ทำงาน พนักงานรู้ แต่ไม่ทำ เพราะไม่มีโอกาสลอง ไม่มีการติดตาม และไม่มีวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้ใช้สิ่งที่เรียนมา

“ความรู้ที่ไม่ได้ถูกใช้ ไม่ต่างอะไรจากหนังสือที่วางอยู่บนชั้นโดยไม่มีใครเปิดอ่าน”

การเรียนรู้จะฝังลึกก็ต่อเมื่อถูกนำไปใช้

มนุษย์เรียนรู้ได้ดีที่สุดจากการลงมือทำ ไม่ใช่จากการฟังอย่างเดียว งานวิจัยอย่าง Forgetting Curve ยังชี้ชัดว่า ความรู้ที่ไม่ได้ใช้จะหายไปเกือบครึ่งในเวลาไม่กี่วัน ดังนั้น Course training ที่เน้นการฟังบรรยายจึงแทบไม่เคยสร้างการเปลี่ยนแปลงจริง

แต่เมื่อผู้เข้าร่วมได้ทดลองในคลาส และกลับไปเจอการติดตามผลในงานจริง ความรู้จะค่อย ๆ กลายเป็นพฤติกรรมใหม่ เช่น การ feedback ที่เคยยาก กลายเป็นสิ่งที่ทำได้ทุกสัปดาห์ หรือการประชุมที่เคยเงียบ ก็เริ่มมีการแลกเปลี่ยนมากขึ้น

ทำให้ Course training กลายเป็นพฤติกรรมจริงได้อย่างไร

สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงว่า “สอนอะไร” แต่คือ “สอนแล้วเกิดอะไรต่อ” การออกแบบ Course training ให้ไม่สูญเปล่าต้องคิดถึงกระบวนการหลังคลาสด้วย

องค์ประกอบที่ช่วยเปลี่ยนความรู้เป็นพฤติกรรม

– การฝึกในสถานการณ์จำลอง: ให้พนักงานลองใช้ทักษะในคลาสทันที

– การบ้านหรือ assignment สั้น ๆ: เพื่อให้สิ่งที่เรียนเชื่อมโยงกับงานจริง

– การ feedback ต่อเนื่อง: หัวหน้าหรือโค้ชช่วยสะท้อนผล ทำให้พนักงานมั่นใจที่จะเปลี่ยนพฤติกรรม

– การแชร์ผลลัพธ์ในทีม: ทำให้การเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล แต่กลายเป็นเรื่องของทั้งทีม

“การอบรมที่ดีไม่จบที่ห้องเรียน แต่ต่อยอดไปจนถึงโต๊ะทำงาน”

ปรากฏการณ์เมื่อ Course training เชื่อมกับงานจริง

องค์กรที่ออกแบบการอบรมให้ผู้เรียนได้ลงมือทำจริงและมีการติดตามต่อเนื่อง มักเห็นการเปลี่ยนแปลงในระดับพฤติกรรม เช่น ทีมที่เคยเงียบ เริ่มกล้าพูดมากขึ้น ทีมที่เคยโทษกัน เริ่ม feedback กันด้วยความจริงใจ หรือหัวหน้าที่เคยสั่งอย่างเดียว เริ่มตั้งคำถามเปิดให้ทีมคิดร่วมกัน

นี่คือความแตกต่างที่เกิดจากการ “ใช้สิ่งที่เรียน” ไม่ใช่เพียง “รู้สิ่งที่เรียน”

ทำไมการติดตามจึงเป็นหัวใจ

หลายครั้งองค์กรจัด Course training แล้วจบลงทันทีที่วิทยากรสอนเสร็จ ผลลัพธ์จึงไม่ยั่งยืน แต่เมื่อมีการติดตาม เช่น นัด check-in หลังอบรม หรือให้หัวหน้าถามลูกทีมว่าได้นำสิ่งที่เรียนมาใช้อย่างไร ความรู้ก็ไม่ถูกปล่อยให้หายไป แต่ถูกผลักให้กลายเป็นพฤติกรรมใหม่

“สิ่งที่ทำให้การเรียนรู้มีค่า ไม่ใช่วันที่เราเข้าอบรม แต่คือวันที่เรากล้าลองทำสิ่งใหม่ในที่ทำงาน”

สุดท้าย Course training ต้องเปลี่ยนเป็นพฤติกรรม

Course training จะไม่สูญเปล่า ถ้ามันไม่จบแค่การฟัง แต่กลายเป็นการทำที่จับต้องได้ในที่ทำงาน เพราะเป้าหมายไม่ใช่แค่การอัปเดตความรู้ แต่คือการสร้างทีมที่ทำงานได้ดีขึ้นจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป

หากองค์กรของคุณกำลังมองหา Course training ที่ทำให้การเรียนรู้กลายเป็นพฤติกรรมจริง ติดต่อ The Blacksmith เพื่อออกแบบโปรแกรมที่สร้างผลลัพธ์ยั่งยืน คลิกลงทะเบียน

Scroll to Top