หลายคนเข้าใจว่า “ภาวะผู้นำ” คือความสามารถในการตัดสินใจและชี้ทางให้ทีม
แต่ในความเป็นจริง หัวหน้าที่พูดเก่งแต่ฟังไม่เป็น อาจเป็นต้นเหตุของการพังทลายของวัฒนธรรมความไว้ใจในทีมโดยไม่รู้ตัว
มีอยู่ไม่น้อยในองค์กรที่หัวหน้ามีความสามารถรอบด้าน — เก่งทั้งเรื่องงาน กล้าแสดงวิสัยทัศน์ มีความมั่นใจสูง — แต่กลับละเลยพฤติกรรมเล็ก ๆ อย่าง “การฟัง” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของภาวะผู้นำที่แท้จริง
การเป็นผู้นำไม่ได้วัดจากความรู้แน่น หรือเสียงที่ดังกว่าใคร แต่คือความสามารถในการสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้คนในทีมกล้าแสดงความคิดเห็นโดยไม่กลัวถูกตัดสิน
ความเก่งที่ไม่เปิดใจ = ความสามารถที่ไม่มีใครอยากเดินตาม
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การมีหัวหน้าที่ไม่รู้คำตอบ แต่คือการมีหัวหน้าที่ “คิดว่าตัวเองมีคำตอบอยู่คนเดียว” และไม่เคยเปิดใจรับฟังคนอื่นเลย
ในหลายองค์กร หัวหน้าประเภทนี้มักมีลักษณะร่วมคือ:
– ตัดสินใจรวดเร็วแต่ไม่รับ feedback
– พูดในที่ประชุมโดยไม่มีใครกล้าแย้ง
– มักบอกว่า “แค่ทำตามก็พอ ไม่ต้องคิดเยอะ”
– เวลาเกิดปัญหา มักพูดว่า “ผมบอกแล้ว” แทนที่จะถามว่า “เราจะปรับตรงไหนได้บ้าง?”
แม้จะมีผลงานชัดเจน แต่ในระยะยาว ทีมกลับหดหู่ ไร้พลัง และไม่กล้าเสนออะไรใหม่ เพราะรู้ว่า “สุดท้ายก็ไม่มีใครฟังอยู่ดี”
“ภาวะผู้นำ” ไม่ได้เริ่มจากคำสั่ง แต่มาจากความไว้ใจ
ภาวะผู้นำที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงคนที่ควบคุมทุกอย่างได้ แต่คือคนที่สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้คนในทีมกล้าคิด กล้าทำ และกล้าพูด
องค์กรที่มีวัฒนธรรมการฟังอย่างแท้จริงมักมีลักษณะร่วมคือ:
– หัวหน้าตั้งใจฟัง ไม่ขัด ไม่เร่ง ไม่ตัดสินกลางทาง
– มีการถาม feedback กลับจากทีมทุกระดับ
– ผู้นำพร้อมยอมรับเมื่อพลาด และไม่กลัวการถูก challenge
สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อน “ภาวะผู้นำ” ในเชิงพฤติกรรมที่จับต้องได้ และคือรากฐานของความไว้ใจในทีม
คำถามสำคัญ
วันนี้คุณฟังทีมของคุณจริง ๆ หรือแค่รอพูด?
ภาวะผู้นำที่ดี เริ่มจากการหยุดฟังเสียงตัวเอง แล้วเปิดพื้นที่ให้เสียงของคนอื่นได้ดังขึ้นบ้าง เพราะในที่สุดแล้ว คนที่ทำให้ทีมเดินไปไกล ไม่ใช่แค่คนที่เก่งที่สุด
แต่คือคนที่สร้างสภาพแวดล้อมให้ทุกคน “อยาก” เดินไปด้วยกัน
สนใจพัฒนาภาวะผู้นำในองค์กรของคุณ?
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาวิธีพัฒนาภาวะผู้นำอย่างยั่งยืน
ติดต่อ ทีมที่ปรึกษา L&D Consultant จาก The Blacksmith เพื่อดูโปรแกรมที่ออกแบบเฉพาะสำหรับทีมของคุณ คลิกลงทะเบียน