มุมมองที่ทำให้เทรนนิ่งถูกใช้ผิดทาง
หลายองค์กรยังคงใช้เทรนนิ่งเป็นเครื่องมือ “แก้ปัญหา” อย่างเดียว เช่น เมื่อพนักงานสื่อสารไม่เก่งก็ส่งไปเรียนการพูดในที่ชุมชน เมื่อหัวหน้าบริหารเวลาไม่ได้ก็ส่งไปอบรมการจัดการเวลา การมองเช่นนี้ทำให้การเทรนนิ่งถูกใช้เพื่ออุดช่องโหว่ แต่ไม่ค่อยถูกใช้เพื่อสร้างศักยภาพใหม่ ๆ ที่ทำให้ทีมแข็งแรงกว่าเดิม
ปัญหาของการมองเทรนนิ่งเป็นแค่การแก้จุดอ่อน คือมันทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเอง “ขาด” อะไรบางอย่างอยู่เสมอ และถูกมองว่าเป็น “ปัญหา” มากกว่าคนที่มีคุณค่า
“เทรนนิ่งไม่ควรทำให้คนรู้สึกว่าตัวเองไม่พอ แต่ควรทำให้พวกเขาเห็นว่าตัวเองไปได้ไกลกว่าที่คิด”
การเทรนนิ่งที่เน้นขยายจุดแข็ง
หัวใจของการพัฒนาคนคือการต่อยอดจากสิ่งที่เขามีอยู่แล้ว เพราะเมื่อพนักงานได้ทำงานจากจุดแข็ง ความมั่นใจและแรงบันดาลใจจะเกิดขึ้นเอง เทรนนิ่งที่ออกแบบจากสิ่งนี้จึงไม่ได้ทำให้พนักงานรู้สึกว่าต้องแก้ไข แต่ทำให้รู้สึกว่าตัวเอง “เติบโต”
ตัวอย่างเช่น ทีมขายที่เก่งด้านการสร้างความสัมพันธ์อยู่แล้ว หากได้รับการเทรนนิ่งเรื่องการใช้ข้อมูลลูกค้ามาช่วยต่อยอด จะทำให้ทีมไม่เพียงแต่ “ขายได้” แต่ยัง “ขายได้ดีกว่าเดิม” เพราะใช้จุดแข็งเดิมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม
การสร้างทีมที่เก่งขึ้นจากสิ่งที่มี
การขยายจุดแข็งไม่ได้หมายความว่าองค์กรไม่สนใจจุดอ่อน แต่คือการจัดสมดุลใหม่ให้ทีมเติบโตจากสิ่งที่ทำได้ดีอยู่แล้ว และลดผลกระทบจากจุดอ่อนไปพร้อมกัน
วิธีคิดใหม่ในการออกแบบเทรนนิ่งพนักงาน
มองหาสิ่งที่ทีมทำได้ดี และถามว่าจะต่อยอดได้อย่างไร
ใช้เทรนนิ่งเพื่อเพิ่มมิติใหม่ ไม่ใช่แค่แก้ข้อบกพร่อง
ทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาเก่ง
ปรากฏการณ์เมื่อเทรนนิ่งขยายจุดแข็ง
องค์กรที่ใช้แนวทางนี้มักสร้างทีมที่เต็มไปด้วยพลังบวก เพราะพนักงานไม่รู้สึกว่าตัวเอง “มีปัญหา” แต่รู้สึกว่า “มีศักยภาพ” ที่องค์กรพร้อมจะสนับสนุน สิ่งนี้ทำให้เกิดแรงจูงใจจากภายใน และทำให้คนอยากอยู่กับองค์กรนานขึ้น
ทีมที่ได้ต่อยอดจากจุดแข็งยังมักสร้างผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย เพราะพวกเขาทำงานด้วยความมั่นใจและความเชี่ยวชาญที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
การเทรนนิ่งที่สร้างทั้งผลลัพธ์และความผูกพัน
เมื่อพนักงานรู้สึกว่าองค์กรไม่เพียงแก้ไขข้อบกพร่อง แต่ยังลงทุนเพื่อให้พวกเขาไปได้ไกลกว่าเดิม ความรู้สึกผูกพันต่อองค์กรก็จะเพิ่มขึ้น เทรนนิ่งจึงไม่ได้สร้างแค่ทักษะใหม่ แต่ยังสร้างวัฒนธรรมที่คนรู้สึกว่า “เราเติบโตไปด้วยกัน”
สุดท้าย เทรนนิ่งพนักงานคือการมองเห็นศักยภาพ
ถ้าองค์กรยังใช้เทรนนิ่งเพื่อแก้ปัญหาอย่างเดียว พนักงานจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยดีพอ แต่ถ้าองค์กรใช้เทรนนิ่งเพื่อขยายจุดแข็ง พนักงานจะรู้สึกว่าตัวเองมีค่า และพร้อมใช้พลังนั้นขับเคลื่อนองค์กรต่อไป
“การพัฒนาที่แท้จริงไม่ใช่การซ่อมคน แต่คือการทำให้ศักยภาพที่มีอยู่เปล่งประกายกว่าเดิม”
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาเทรนนิ่งพนักงานที่ออกแบบเพื่อขยายจุดแข็งและสร้างทีมที่แข็งแรง ติดต่อ The Blacksmith เพื่อดูโปรแกรมที่เหมาะสมสำหรับทีมของคุณ คลิกลงทะเบียน