ปัญหาของการเลือกคอร์สตามกระแส
ทุกปีมักมีคอร์สเทรนนิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการคิดเชิงนวัตกรรม การทำงานแบบ Agile หรือทักษะดิจิทัลใหม่ ๆ องค์กรจำนวนมากรีบจัดให้พนักงานเข้าเรียน เพราะกลัวว่าถ้าไม่เรียนจะ “ตกขบวน” แต่สิ่งที่ตามมาคือ หลายคนจบคอร์สแล้วกลับไปเจอปัญหาเดิมในที่ทำงาน เพราะสิ่งที่เรียนไม่ตรงกับความต้องการจริงของทีม
เช่น ทีมที่ยังมีปัญหาการสื่อสารขั้นพื้นฐาน แต่ถูกส่งไปอบรมเรื่อง Data analytics ที่ซับซ้อน หรือทีมบริการที่เจอลูกค้าโกรธทุกวัน แต่กลับได้เรียนเรื่องการออกแบบกระบวนการเชิงกลยุทธ์แทน ปัญหาที่แท้จริงไม่ถูกแตะต้อง ทำให้ผลลัพธ์ไม่เกิด
เมื่อพนักงานรู้สึกว่าเทรนนิ่งไม่เกี่ยวกับงาน
เสียงสะท้อนที่ได้ยินบ่อยจากพนักงานคือ “สิ่งที่เรียนไม่ได้ใช้จริง” เพราะหัวข้ออบรมไม่เชื่อมโยงกับโจทย์ในชีวิตประจำวัน เมื่อพนักงานถูกบังคับให้เข้าอบรมที่ไม่ตอบโจทย์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ใช่การพัฒนา แต่คือการเสียเวลา
สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้พนักงานหมดแรงใจ แต่ยังทำให้คำว่า “เทรนนิ่ง” กลายเป็นภาพจำเชิงลบไปโดยไม่รู้ตัว พนักงานอาจเริ่มมองว่าอบรมคือภาระ ไม่ใช่โอกาสที่จะช่วยให้พวกเขาเติบโต
เทรนนิ่งพนักงานที่ดีต้องเริ่มจากการฟังทีม
สิ่งที่ทำให้การเทรนนิ่งมีพลังจริง ๆ คือการออกแบบจาก “สิ่งที่ทีมต้องการ” ไม่ใช่ “สิ่งที่ตลาดกำลังฮิต”
คำถามที่ควรถามก่อนเลือกเทรนนิ่ง
ปัญหาที่ทีมเจอซ้ำ ๆ คืออะไร
– ถ้าพนักงานมีทักษะใหม่หนึ่งอย่าง ทีมจะทำงานได้ดีขึ้นตรงไหน
– หลังจบเทรนนิ่ง เราคาดหวังให้พนักงานเปลี่ยนพฤติกรรมอะไร
คำถามเหล่านี้ช่วยให้องค์กรมองเห็นความต้องการแท้จริง และเลือกคอร์สที่ตอบโจทย์ได้ตรงกว่า
“การเลือกเทรนนิ่งที่ดี เริ่มจากการฟังทีม ไม่ใช่การดูว่าตลาดกำลังพูดเรื่องอะไร”
ปรากฏการณ์เมื่อเลือกเทรนนิ่งผิดเป้า
องค์กรจำนวนมากเสียเวลาและงบประมาณไปกับการเทรนนิ่งที่ไม่ตรงความต้องการ ผลที่เกิดขึ้นคือพนักงานกลับไปทำงานแบบเดิม ทีมไม่ได้เปลี่ยนแปลง และฝ่ายบริหารก็รู้สึกว่า “การอบรมไม่เคยได้ผล” ทั้งที่จริง ๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การเลือกหัวข้อไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของทีม
ในทางกลับกัน องค์กรที่เลือกเทรนนิ่งตรงกับโจทย์ เช่น ทีมที่มีปัญหาการทำงานข้ามแผนก ได้เข้าอบรมเรื่องการสื่อสารและการ feedback บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยน พนักงานกล้าพูดมากขึ้น การทำงานลื่นไหลขึ้น และความผิดพลาดซ้ำ ๆ ลดลง
ทำไมการฟังทีมถึงสำคัญกว่าการตามเทรนด์
เพราะการทำงานจริงไม่ได้ต้องการคอร์สที่ฟังดูทันสมัยที่สุด แต่ต้องการการเรียนรู้ที่ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้จริง การฟังทีมจึงเป็นวิธีที่ทำให้องค์กรลงทุนกับเทรนนิ่งได้คุ้มค่ากว่า
“เทรนนิ่งที่เปลี่ยนองค์กร ไม่ใช่คอร์สที่ดัง แต่คือคอร์สที่ทำให้ทีมทำงานได้ดีขึ้นในวันพรุ่งนี้”
สุดท้าย เทรนนิ่งพนักงานคือการแก้ปัญหา ไม่ใช่การวิ่งตามกระแส
การพัฒนาคนจะเกิดผลจริงก็ต่อเมื่อสิ่งที่เรียนถูกนำไปใช้ในงานประจำ เทรนนิ่งที่เลือกเพราะกระแสจึงมักกลายเป็นแค่กิจกรรมที่จบไป แต่เทรนนิ่งที่ออกแบบจากสิ่งที่ทีมต้องการ จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาเทรนนิ่งพนักงานที่ตอบโจทย์ปัญหาของทีม ติดต่อ The Blacksmith เพื่อออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองค์กรของคุณ คลิกลงทะเบียน