The Blacksmith_PRTR_Course training

Course training ที่ดีไม่ใช่คอร์สที่คนเรียนเยอะที่สุด แต่คือคอร์สที่เปลี่ยนพฤติกรรมได้จริง

องค์กรจำนวนมากกำลังเลือก Course training ด้วยเกณฑ์ที่ผิด

เวลาจะจัดอบรม หลายบริษัทมักเลือกจากคอร์สที่ชื่อฟังดูดี สไลด์สวย หรือวิทยากรพูดเก่ง แน่นอนว่าคนเรียนก็ให้ feedback ดี ๆ อย่าง “สนุกดี” หรือ “ได้แรงบันดาลใจ”

แต่เมื่อกลับไปที่หน้างาน…ทีมยังทำงานแบบเดิม ไม่กล้าพูด ไม่กล้าฟัง และไม่กล้ารับผิด เหตุผลหนึ่งคือ องค์กรยังใช้เกณฑ์เลือก Course training แบบ “รู้สึกดี” แทนที่จะเริ่มจาก “ปัญหาที่อยากแก้”

พอวัดผลจากจำนวนคนสมัคร หรือคะแนนความพึงพอใจแทนที่จะดูผลลัพธ์ที่เปลี่ยน สุดท้ายการเทรนก็กลายเป็นแค่กิจกรรมชั่วคราว — ไม่ใช่การพัฒนาอย่างแท้จริง

Course training ที่เวิร์ก ต้องเริ่มจาก “ปัญหาที่อยากเปลี่ยน” ไม่ใช่ “หัวข้อที่ดูดี”

ก่อนจะเลือกคอร์ส คำถามที่ควรถามคือ “ตอนนี้องค์กรของเรากำลังเจออุปสรรคอะไรอยู่?” “คอร์สนี้จะช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในทีมให้ดีขึ้นตรงไหน?”

บางทีมอาจต้องการการสื่อสารที่เปิดใจมากขึ้น บางทีมอาจต้องการความกล้ารับผิดหรือการทำงานแบบเป็นเจ้าของ

สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่คอร์สชื่อดังหรือหัวข้อยอดนิยม แต่มันคือคอร์สที่ “จำเป็น” สำหรับการเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำงานของทีมจริง ๆ

หัวข้อเดียวกัน อาจใช้ไม่ได้กับทุกทีม

Course training ไม่ใช่สิ่งที่ใช้ได้ทุกองค์กรเหมือนกันหมด หัวข้อที่ทีมหนึ่งเรียนแล้วเวิร์ก อาจไม่เหมาะกับอีกทีมเลยก็ได้

เพราะแต่ละองค์กรมีวัฒนธรรม คน และความพร้อมไม่เท่ากัน การเลือกคอร์สจึงไม่ควรเริ่มจาก “คนอื่นเลือกอะไร” แต่ควรเริ่มจาก “องค์กรของเราต้องการเปลี่ยนอะไร” เพราะวิธีการจัดยังเหมือนเดิม: ฟังบรรยาย 3 ชั่วโมง → ทำกิจกรรมเล็กน้อย → กลับไปทำงานเหมือนเดิม

สิ่งที่เปลี่ยนพฤติกรรมได้ ไม่ใช่แค่เนื้อหา แต่คือ “ประสบการณ์ของผู้เรียน”

ในหลายคลาส ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหา แต่กลับไม่กล้าใช้ บางครั้งเพราะไม่ได้ฝึกลอง บางครั้งเพราะไม่มีระบบสนับสนุนหลังเรียน และบางครั้งเพราะหัวหน้าไม่ได้อยู่ด้วย ไม่รู้ว่าเรียนอะไรมา

course training ที่เปลี่ยนพฤติกรรมได้จริง ต้องมีมากกว่าความรู้ มันต้องมีเวทีให้ลองทำจริง ต้องมีพื้นที่ที่ผิดพลาดได้ และต้องมีคนที่เชื่อมต่อประสบการณ์นั้นกับหน้างาน — โดยเฉพาะหัวหน้า

บทบาทของหัวหน้า คือสิ่งที่ทำให้ Course training ได้ผลหรือเปล่า

หลายคนคิดว่าการส่งลูกทีมไปเรียนคือจบหน้าที่ แต่ในความเป็นจริง ถ้าหัวหน้าไม่รู้ว่าในคลาสพูดเรื่องอะไร ไม่สนับสนุนให้ลอง ไม่เปิดพื้นที่ให้สะท้อน

สิ่งที่เรียนมาก็จะหายไปภายในไม่กี่วัน หัวหน้าที่ดีไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนตลอด แต่ต้อง “ต่อยอด” สิ่งที่เรียนให้เป็นบทสนทนาในทีม

ถามว่าเรียนมาแล้วคิดยังไง เจออุปสรรคอะไร และจะช่วยกันยังไงให้ใช้ได้จริง นี่คือบทบาทของผู้นำในการทำให้ training ไม่ใช่แค่การเข้าเรียน แต่กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ

การตั้งชื่อคอร์สไม่สำคัญเท่ากับการ “ตั้งเป้าหมายให้ชัด”

หลายองค์กรเลือกคอร์สจากชื่อที่ฟังแล้วดูมืออาชีพ แต่ไม่เคยถามว่า “คอร์สนี้จะเปลี่ยนอะไรในทีมเราได้บ้าง?”

หัวข้ออาจฟังดูดี แต่ถ้าไม่ได้เชื่อมกับปัญหา พฤติกรรมก็จะไม่เปลี่ยน ในทางกลับกัน คอร์สที่ชื่อเรียบง่ายแต่ตั้งเป้าหมายชัด เช่น

“ฟังอย่างลึก เพื่อสร้างทีมที่ไว้ใจกันได้” “ตั้งเป้าหมายให้ชัด เพื่อจัดลำดับงานให้ถูก” อาจให้ผลลัพธ์จริงได้มากกว่าคอร์สชื่อหรูหราแต่ไม่สะท้อนปัญหาจริงเลย

คอร์สที่ไม่มีใครพูดถึง อาจเปลี่ยนทีมได้มากกว่าคอร์สดัง

บางครั้ง Course training ที่ให้ผลจริง อาจไม่มีชื่อวิทยากรดัง ไม่มีคลิปโปรโมต ไม่มีรีวิวในออนไลน์

แต่ถ้ามันออกแบบมาเพื่อทีมของคุณจริง ๆ เข้าใจว่าองค์กรคุณกำลังพยายามเปลี่ยนอะไร และเชื่อมโยงกับบริบทการทำงานจริงของทีม

นั่นแหละคือสิ่งที่ควรเลือก ไม่ใช่คอร์สดังแต่เปลี่ยนอะไรไม่ได้เลย

สนใจออกแบบ Course training ที่เปลี่ยนพฤติกรรมได้จริงในองค์กรของคุณ?

หากองค์กรของคุณต้องการ Course training ที่ไม่ใช่แค่เนื้อหาดี แต่สามารถเชื่อมโยงกับปัญหาในงาน และเปลี่ยนพฤติกรรมทีมได้จริง

ติดต่อ The Blacksmith เพื่อดูโปรแกรมที่ออกแบบเฉพาะสำหรับทีมของคุณ คลิกลงทะเบียน

Scroll to Top