เทรนนิ่งพนักงานไม่ใช่โบนัส ไม่ใช่ CSR และไม่ใช่ของเล่นที่ทำให้คนแฮปปี้
ในหลายองค์กร การจัด In-house training ยังถูกมองว่าเป็น “ภารกิจเสริม” หรือ “ของดีที่มีได้ก็ดี” บางบริษัทจัดเทรนเฉพาะเมื่อมีงบเหลือ หรือใช้เพื่อสร้างบรรยากาศดี ๆ บางแห่งมองว่าเป็น CSR ภายใน หรือกิจกรรมคลายเครียดให้ทีมงาน
ยิ่งไปกว่านั้น หลายองค์กรเลือกคอร์สจากราคาที่ถูกที่สุด หรือจากความนิยม เช่น “คอร์สที่คนในทีมอยากเรียน” มากกว่าการมองว่าองค์กร “ควรให้เรียนอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ดีขึ้น”
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ เทรนนิ่งไม่เคยเปลี่ยนอะไรจริง เพราะองค์กรไม่เคยคาดหวังให้มันเปลี่ยนอะไรเลยตั้งแต่ต้น
ในความจริง เทรนนิ่งพนักงานคือเครื่องมือในการ “หล่อวัฒนธรรม” ขององค์กรแบบเนียนที่สุด
เพราะพฤติกรรมของคน เปลี่ยนด้วย “สิ่งที่องค์กรให้เวลาและทรัพยากรกับมัน”
วัฒนธรรมองค์กร ไม่ได้สร้างจากคำพูด หรือภาพโปสเตอร์ แต่สร้างจาก “สิ่งที่บริษัทลงทุนจริง”
หากองค์กรจัด training ด้วย mindset ที่ถูกต้อง — เช่น ให้หัวหน้าเข้าเทรนกับทีม, มีระบบติดตามผล, เชื่อมโยงกับเป้าหมายจริง — สิ่งเหล่านี้จะบอกทีมงานว่า “สิ่งที่เรียน มันสำคัญจริง ๆ กับเรา”
เมื่อองค์กรจัดพื้นที่เรียนรู้แบบจริงจัง พนักงานจะรับรู้ว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ของแถม แต่เป็นเครื่องมือเปลี่ยนพฤติกรรมที่องค์กรลงทุนให้เกิดขึ้น
องค์กรที่เปลี่ยน mindset เรื่อง training ได้ มักเห็นการเปลี่ยนแปลงในอีก 6–12 เดือนถัดมา
แม้จะไม่เห็นผลในทันที แต่การลงทุนด้าน training ที่ถูกต้องจะค่อย ๆ เปลี่ยนทีมให้เห็นผลจริง เช่น:
– ทีมพูดภาษาเดียวกันมากขึ้น เพราะเคยฝึกการสื่อสารในคลาสเดียวกัน
– หัวหน้าสื่อสารชัดขึ้น เพราะได้เรียนรู้เรื่องการให้ feedback
– พนักงานกล้า feedback กันตรงขึ้น เพราะมีระบบ safe space ให้พูดคุย
– การประชุมมีคุณภาพกว่าเดิม เพราะคนมีเครื่องมือในการคิดและแลกเปลี่ยน
– ความเข้าใจเรื่องเป้าหมายเริ่มตรงกันทั้งองค์กร จากกิจกรรมที่กระตุ้นให้ทีมมองไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแผนธุรกิจครั้งใหญ่ แต่เกิดจาก “ห้องเทรนเล็ก ๆ” ที่ถูกวางบทบาทใหม่ให้เป็นพื้นที่วางรากพฤติกรรม
อยากให้ทีมทำงานดีขึ้น อย่ามอง training เป็นรางวัล — แต่มองให้ถูกว่า มันคือ “ระบบเปลี่ยนพฤติกรรม”
เปลี่ยนคำถาม แล้วคุณจะเปลี่ยนทั้งระบบการพัฒนาคน
ลองเปลี่ยนจากคำถามเดิม ๆ: “ปีนี้จะเทรนอะไรดี?” “มีคอร์สอะไรน่าสนุกบ้าง?” มาเป็นคำถามแบบใหม่:
มาเป็นคำถามแบบใหม่: “ปีนี้เราต้องการเห็นพฤติกรรมอะไรเพิ่มขึ้น?” “ทีมเรากำลังติดอยู่ที่จุดไหน?” “หัวหน้าคนไหนต้องพัฒนาอะไร เพื่อพาทีมไปต่อได้?”
จากนั้น ค่อยเลือก training ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมเหล่านั้นอย่างจริงจัง
Training ที่ออกแบบดี = เครื่องมือกลยุทธ์ในการวางวัฒนธรรม
Training ไม่ใช่แค่ทำให้คนเข้าใจ แต่มันคือเครื่องมือที่องค์กรสามารถใช้สร้างบรรยากาศ การคิด การทำงานแบบที่ต้องการได้
หากองค์กรอยากให้ทีมกล้าลองผิด ลองถูก — Training ต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยและ feedback ที่ไม่ตัดสิน ถ้าองค์กรอยากให้หัวหน้าโฟกัสการเติบโตของคนในทีม — Training ต้องฝึกการสื่อสาร การตั้งคำถาม และการให้ฟีดแบ็กอย่างมีคุณภาพ เมื่อเทรนซ้ำอย่างสม่ำเสมอ พฤติกรรมใหม่จะค่อย ๆ ถูกฝัง จนกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ของทีม
สนใจออกแบบเทรนนิ่งพนักงานให้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนวัฒนธรรมจริงในองค์กร?
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาแนวทางเทรนนิ่งพนักงานที่ไม่ใช่แค่คอร์สดี แต่เป็นกลไกการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน The Blacksmith พร้อมออกแบบหลักสูตรเฉพาะทางที่ช่วยวางรากพฤติกรรมให้ทีมคุณอย่างเป็นระบบ ติดต่อเราเพื่อดูโปรแกรมที่เหมาะกับบริบทขององค์กรคุณ คลิกลงทะเบียน