Course training ไม่ได้วัดที่เนื้อหาน่าสนใจ แต่ต้องตอบให้ได้ว่า “เราอยากเปลี่ยนอะไร”
หลายองค์กรยังเลือก training โดยดูจากชื่อคอร์ส หรือไม่ก็เลือกตามกระแส เช่น “เทรนด์นี้กำลังมา” หรือ “ทีมอื่นเรียนแล้วพูดว่าดี”
แต่หากยังไม่ชัดว่า อยากให้พนักงาน “เปลี่ยนพฤติกรรม” อย่างไร ผลลัพธ์ที่ได้มักจะเป็นคอร์สที่จบไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้น
บางครั้งอาจถึงขั้นที่คนเรียนรู้สึกว่า “เสียเวลา” เพราะสิ่งที่ได้ ไม่ได้เชื่อมโยงกับการทำงานจริงของตัวเองเลย การเลือก Course training ให้เกิดผลลัพธ์ จึงไม่ควรเริ่มจาก “ชื่อหัวข้อ” แต่ควรเริ่มจาก “พฤติกรรมที่องค์กรอยากให้เกิดขึ้นจริงหลังเรียนจบ”
ก่อนเลือก Course training ลองตอบคำถาม 3 ข้อนี้
การตั้งโจทย์ก่อนเลือกคอร์ส ช่วยให้การเทรนไม่หลุดเป้า และทำให้การออกแบบเนื้อหาสอดคล้องกับความเป็นจริงของทีม
1. พฤติกรรมแบบไหนที่อยากให้เกิดขึ้นหลังเรียน?
เช่น ต้องการให้หัวหน้ากล้าให้ feedback โดยไม่เลี่ยง หรืออยากให้ทีมเริ่มวางแผนล่วงหน้า ไม่รอให้ปัญหาเกิดแล้วค่อยลงมือ
หากตอบคำถามนี้ไม่ได้ การเลือกคอร์สจะเหมือนเลือกตามอารมณ์มากกว่าความจำเป็น
2. ตอนนี้พนักงาน “ติด” อยู่ตรงไหน?
เช่น คนในทีมไม่กล้าพูดในที่ประชุม ไม่กล้าตัดสินใจ หรือยังทำงานแบบแยกส่วน การรู้จุดติด จะช่วยให้เราเลือก course training ที่ “ปลดล็อก” ได้ตรงจุดมากกว่าแค่เพิ่มความรู้ใหม่ ๆ
3. ใครคือกลุ่มที่ควรเรียนคอร์สนี้จริง ๆ?
ไม่ใช่ทุกการเรียนรู้ต้องเปิดให้ทุกคน บางคอร์สควรเจาะไปยังคนที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม เช่น หัวหน้าทีม หรือผู้จัดการ
เพราะถ้าคนที่เรียนไม่มีอำนาจนำสิ่งที่เรียนไปใช้งานจริง การเปลี่ยนแปลงก็จะหยุดอยู่แค่ในห้องเรียน
แทนที่จะมองว่า “คอร์สไหนดี” ลองกลับมามองว่า “พฤติกรรมไหนที่อยากเปลี่ยน”
การเริ่มต้นจากปัญหาจะเปลี่ยนวิธีเลือก training อย่างสิ้นเชิง แทนที่จะตั้งต้นจากชื่อวิชา เช่น “Communication Skill” หรือ “Time Management”
เราจะเริ่มถามว่า ทำไมทีมสื่อสารกันไม่เข้าใจ? ทีมล้มแผนเพราะวางแผนไม่เป็น หรือเพราะไม่มีใครกล้าปรับแผน?
เมื่อเรารู้ปัญหาเบื้องลึก คำตอบของคอร์สที่ควรจัดอาจไม่ใช่สิ่งที่เคยคิด บางครั้งอาจไม่ใช่ “หัวข้อใหม่” แต่เป็น “วิธีเรียนรู้แบบใหม่”
เช่น สร้างพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุย หรือการจำลองสถานการณ์เพื่อฝึกตัดสินใจ
Course training ที่เปลี่ยนพฤติกรรมได้จริง ต้องมีจุดเปลี่ยนให้คน “เอากลับไปใช้”
การวัดผลลัพธ์ของ training ไม่ใช่แค่คะแนนความพึงพอใจ แต่ต้องดูว่า พฤติกรรมหลังเรียนเปลี่ยนหรือไม่
ผู้เรียนเริ่มใช้สิ่งที่เรียนในงานหรือไม่ หัวหน้าเห็นความต่างในทีมอย่างไร
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคอร์สนั้นถูกออกแบบอย่างตั้งใจ ไม่ใช่แค่เนื้อหาครบ แต่เน้นให้ผู้เรียน “ได้ลอง ใช้ แล้วคิดต่อ”
ไม่ใช่แค่พูดถึงเครื่องมือ แต่ถามว่า “จะใช้เครื่องมือนี้เพื่ออะไร เพื่อใคร และอย่างไรในบริบทจริง”
ความคุ้มค่าของ Course training ไม่ได้อยู่ที่ชื่อคอร์ส แต่อยู่ที่ผลลัพธ์หลังเรียน
Course training ที่มีชื่อคุ้นหูอาจดูน่าสนใจ แต่ถ้าไม่ได้ออกแบบให้ตอบ pain point ของทีม ไม่เชื่อมกับเป้าหมายองค์กร
หรือไม่ทำให้หัวหน้าสนับสนุนหลังจบคอร์ส ผลลัพธ์ก็จะไม่ต่างจากการส่งคนไปนั่งฟัง แล้วกลับมาทำเหมือนเดิม
แต่ถ้าเราเริ่มจากคำถามว่า “อยากเห็นอะไรเปลี่ยนไป?” และเลือกวิธีเรียนรู้ให้เหมาะกับจุดนั้น แม้คอร์สจะไม่มีชื่อเท่ แต่ผลลัพธ์จะชัดเจนในหน้างานเสมอ
อยากสร้างทีมที่ “เปลี่ยนได้จริง” หลังเข้า training?
ถ้าคุณกำลังมองหา Course training ที่ไม่ได้แค่ให้ความรู้ แต่ช่วยให้คนในทีม กล้าสื่อสารมากขึ้น กล้ารับผิดชอบมากขึ้น และเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม
The Blacksmith มีประสบการณ์ในการออกแบบโปรแกรมเฉพาะ ที่เริ่มจากพฤติกรรมที่องค์กรของคุณอยากเห็น ไม่ใช่แค่ชื่อคอร์สที่ฟังดูดี
📌 พูดคุยกับทีมเรา เพื่อออกแบบ training ที่เปลี่ยน “ทีมของคุณ” ได้จริง ดูโปรแกรมที่ออกแบบเฉพาะสำหรับทีมของคุณ คลิกลงทะเบียน