เทรนนิ่งพนักงาน

มีใครเคยสังเกตไหมว่าเมื่อเราเข้าร่วมอบรมหรือเวิร์กชอป แม้ว่าช่วงแรกเราจะรู้สึกตื่นเต้นและเต็มไปด้วยข้อมูลใหม่ ๆ แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะ ความรู้ที่เคยคิดว่าจำได้แน่นก็เริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว นี่คือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Forgetting Curve ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้จัดการหรือหัวหน้าทีมต้องให้ความสำคัญอย่างมากเมื่อพูดถึงการ เทรนนิ่งพนักงาน Forgetting Curve ถูกเสนอโดยนักจิตวิทยาชาวเยอรมัน Hermann Ebbinghaus ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความทรงจำของมนุษย์นั้นจะเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็วหากไม่มีการทบทวนและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ในบริบทของการเทรนนิ่งพนักงาน ถ้าหลักสูตรการอบรมถูกจัดขึ้นเพียงครั้งเดียวโดยไม่มีการสนับสนุนเพิ่มเติมหลังจากนั้น โอกาสที่พนักงานจะลืมความรู้ที่ได้รับนั้นสูงมาก ซึ่งนั่นหมายความว่า การเทรนนิ่งอาจไม่เกิดผลในระยะยาวตามที่เราต้องการ การเทรนนิ่งพนักงานกับการต่อสู้ Forgetting Curve ในโลกของการทำงานที่เต็มไปด้วยข้อมูลและความท้าทายใหม่ ๆ การเทรนนิ่งไม่ควรจะเป็นแค่การเรียนรู้แบบ “ชั่วคราว” ที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่ควรเป็นการสร้างความรู้และทักษะที่คงอยู่ เพื่อให้พนักงานสามารถนำไปใช้ในงานได้อย่างแท้จริง การที่พนักงานได้รับความรู้จากการเทรนนิ่งเพียงครั้งเดียวโดยไม่มีการทบทวนหรือฝึกฝนต่อเนื่อง ก็เหมือนกับการใส่น้ำในถ้วยที่มีรูรั่ว ความรู้จะหายไปอย่างรวดเร็วถ้าไม่มีการเติมเต็มหรือทบทวน เมื่อเรารู้แล้วว่า Forgetting Curve เป็นศัตรูของการเรียนรู้ที่ยั่งยืน เราก็ควรปรับแนวทางการเทรนนิ่งให้สอดคล้องกับการป้องกันความรู้ที่หลุดลอยออกไปได้ง่าย การเทรนนิ่งที่ดีจึงไม่ควรจบแค่การอบรมครั้งแรก แต่ต้องมีการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการทบทวนเนื้อหาที่เรียน การจัดเวิร์กชอปเสริม หรือการให้พนักงานนำความรู้ไปปฏิบัติจริงและแชร์ประสบการณ์ในทีม สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความทรงจำให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เทรนนิ่งที่ดี ต้องเน้นการเรียนรู้ระยะยาว ในทางปฏิบัติแล้ว การจัดอบรมหรือเทรนนิ่งพนักงานควรเป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่เพียงการส่งพนักงานไปอบรมวันเดียวแล้วหวังว่าพวกเขาจะจดจำทุกอย่างได้ การเข้าใจ Forgetting Curve ช่วยให้เรารู้ว่าความรู้และทักษะที่สำคัญต้องได้รับการฝึกฝนและทบทวนอย่างต่อเนื่อง หากเราลงทุนในการเทรนนิ่งแต่ละคอร์สโดยไม่มีการสนับสนุนหลังจากนั้นเลย