การฝึกอบรมในองค์กร หรือ Corporate Training เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่หลายองค์กรใช้เพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาด อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งที่การฝึกอบรมไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง หรือไม่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงได้ ทำให้ทั้งองค์กรและพนักงานเสียเวลาและทรัพยากรไปโดยไม่ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า ทำไม Corporate Training ถึงไม่ได้ผล และองค์กรควรปรับเปลี่ยนวิธีการฝึกอบรมอย่างไรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1. การวางแผนที่ขาดความชัดเจน
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้การฝึกอบรมในองค์กรไม่ได้ผล คือการขาดการวางแผนที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายของการอบรม หลายองค์กรจัดการฝึกอบรมเพียงเพราะเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการพัฒนาพนักงาน แต่ไม่ได้กำหนดว่า การฝึกอบรมนั้นจะช่วยพัฒนาในส่วนไหนขององค์กรหรือพนักงาน การไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้การฝึกอบรมไม่สามารถนำไปปฏิบัติในเชิงธุรกิจได้จริง
ทางแก้: ก่อนที่จะเริ่ม Corporate Training องค์กรควรทำการวิเคราะห์และกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ว่าต้องการพัฒนาในด้านใด และควรประเมินว่าการอบรมจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายนั้นได้อย่างไร การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้การฝึกอบรมเป็นไปอย่างมีทิศทางและสามารถวัดผลได้จริง
2. เนื้อหาไม่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร
อีกหนึ่งปัญหาที่พบคือ เนื้อหาของ Corporate Training ไม่ตรงกับความต้องการหรือปัญหาที่องค์กรกำลังเผชิญ หลักสูตรการอบรมที่เลือกอาจจะไม่สอดคล้องกับทักษะที่พนักงานจำเป็นต้องใช้ในการทำงานจริง ทำให้พนักงานไม่สามารถนำความรู้จากการอบรมไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางแก้: การออกแบบหลักสูตร Corporate Training ควรเน้นให้ตรงกับความต้องการขององค์กรและปัญหาที่พนักงานเผชิญอยู่จริง เช่น หากองค์กรกำลังทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ควรเน้นการอบรมทักษะด้านเทคโนโลยีและการใช้เครื่องมือดิจิทัล หรือหากองค์กรกำลังพัฒนาทีมขาย ก็ควรจัดอบรมทักษะการขาย การเจรจาต่อรอง หรือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
3. พนักงานขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้
ถึงแม้ว่าการฝึกอบรมจะมีคุณภาพ แต่หากพนักงานไม่มีแรงจูงใจในการเรียนรู้ การฝึกอบรมก็อาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร หลายครั้งพนักงานเข้าร่วมการอบรมเพียงเพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ทำให้ขาดความตั้งใจและไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงในการทำงานจริง
ทางแก้: การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานเห็นความสำคัญของการพัฒนาตนเองเป็นสิ่งสำคัญ องค์กรควรชี้ให้เห็นว่าการอบรมจะช่วยพัฒนาทักษะของพนักงานอย่างไร และทำให้พวกเขามีความก้าวหน้าในอาชีพการงานได้อย่างไร การให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเลือกหลักสูตรการฝึกอบรม หรือการสร้างรางวัลหรือสิ่งจูงใจหลังจากการอบรมเสร็จสิ้น ก็จะช่วยเพิ่มความสนใจและความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ได้มากขึ้น
4. ขาดการติดตามผลหลังการอบรม
หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือ หลังจากการฝึกอบรมเสร็จสิ้น องค์กรมักขาดการติดตามผลหรือประเมินว่าพนักงานสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอบรมไปใช้จริงได้หรือไม่ หากไม่มีการติดตามผลหลังการอบรม การฝึกอบรมก็อาจกลายเป็นเพียงแค่กิจกรรมชั่วคราวที่ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานจริง
ทางแก้: องค์กรควรมีการติดตามผลหลังจากการฝึกอบรม เช่น การประเมินผลงาน การทดสอบทักษะ หรือการสังเกตการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการทำงานของพนักงาน การติดตามผลจะช่วยให้องค์กรสามารถวัดผลการอบรมได้ชัดเจนขึ้น และยังสามารถปรับปรุงกระบวนการฝึกอบรมในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
5. การฝึกอบรมที่ไม่ยืดหยุ่นและไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
โลกธุรกิจในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การฝึกอบรมที่ใช้เนื้อหาหรือนโยบายแบบเดิมอาจไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ การอบรมที่ไม่มีการปรับปรุงหรืออัปเดตเนื้อหาให้ทันสมัยจะทำให้พนักงานไม่สามารถนำความรู้ไปใช้กับสถานการณ์จริงได้
ทางแก้: Corporate Training ควรมีความยืดหยุ่นในการปรับเนื้อหาให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน องค์กรควรทำการสำรวจแนวโน้มและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของตนอยู่เสมอ และนำมาปรับใช้ในการออกแบบหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อให้เนื้อหาทันสมัยและตรงกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
6. วิทยากรที่ไม่มีประสบการณ์จริงในอุตสาหกรรม
แม้ว่าหลักสูตรการอบรมจะดี แต่ถ้าวิทยากรหรือผู้ฝึกสอนไม่มีประสบการณ์จริงในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ก็อาจทำให้การฝึกอบรมไม่ได้ผลอย่างที่ควรจะเป็น พนักงานอาจไม่สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้กับปัญหาที่พวกเขาพบเจอในงานจริง
ทางแก้: ควรเลือกวิทยากรที่มีประสบการณ์จริงในสายงานหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับองค์กร วิทยากรที่มีประสบการณ์จะสามารถให้คำแนะนำที่ตรงกับความเป็นจริงของสถานการณ์ในองค์กร และสามารถตอบคำถามหรือให้แนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นประโยชน์
การทำให้ Corporate Training ประสบความสำเร็จและเกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อองค์กรนั้น ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบ การเลือกเนื้อหาที่เหมาะสม และการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง การปรับเปลี่ยนรูปแบบการฝึกอบรมให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยให้องค์กรสามารถจัดการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพและสามารถพัฒนาศักยภาพของพนักงานได้อย่างเต็มที่
คุณเบื่อหรือไม่? กับสิ่งเหล่านี้
การจัดเทรนนิ่งที่ ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน พนักงานขาดแรงจูงใจในการเข้าร่วม ไม่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง! ให้เราช่วยคุณสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพและน่าสนใจ ปรึกษา L&D Consultant ผู้เชี่ยวชาญของเรา รับการออกแบบ Training Roadmap ที่ตอบโจทย์องค์กรของคุณ เริ่มต้นการพัฒนาบุคลากรที่สร้างผลลัพธ์จริงตั้งแต่วันนี้
ปรึกษา L&D Consultant จาก The Blacksmith ฟรี! พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ คลิกลงทะเบียน