fbpx
in house training

ทำอย่างไรให้ In house Training ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กร

การพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตและมีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้น หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่หลายองค์กรใช้ในการเพิ่มทักษะและความรู้ให้กับพนักงานก็คือ In house Training หรือการจัดอบรมภายในองค์กร การอบรมรูปแบบนี้ช่วยให้เนื้อหาของการฝึกอบรมสอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายเฉพาะขององค์กรมากขึ้น แต่การทำให้ In house Training ประสบความสำเร็จและเกิดประโยชน์สูงสุดนั้นต้องอาศัยการวางแผนและการบริหารจัดการอย่างดี

In house Training คืออะไร?

In house Training คือการอบรมที่จัดขึ้นภายในองค์กรเอง โดยใช้ทรัพยากรจากภายในหรือจ้างวิทยากรภายนอกเข้ามาให้ความรู้ การฝึกอบรมรูปแบบนี้มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถออกแบบให้ตรงกับความต้องการเฉพาะขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการฝึกทักษะด้านเทคนิคเฉพาะ การเสริมสร้างทักษะการสื่อสาร หรือแม้กระทั่งการพัฒนาภาวะผู้นำ

ข้อดีของ In house Training คือพนักงานจะได้รับการอบรมที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานที่พวกเขาทำในองค์กร ซึ่งส่งผลให้พวกเขานำสิ่งที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ทันที นอกจากนี้ การจัดอบรมภายในยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องการเดินทางและการจัดการการฝึกอบรมภายนอก

ทำอย่างไรให้ In house Training มีประโยชน์สูงสุด

1. วิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริงขององค์กร

ขั้นแรกในการทำให้ In house Training ประสบความสำเร็จ คือการเข้าใจความต้องการที่แท้จริงขององค์กร คุณควรวิเคราะห์ว่าองค์กรกำลังเผชิญกับความท้าทายอะไรบ้าง หรือพนักงานต้องการพัฒนาทักษะใดเพิ่มเติม เพื่อให้การอบรมตรงกับเป้าหมายและปัญหาที่แท้จริง การทำการสำรวจหรือสัมภาษณ์พนักงานเพื่อทำความเข้าใจถึงทักษะที่พวกเขาขาดแคลน จะช่วยให้การออกแบบหลักสูตรอบรมมีความเฉพาะเจาะจงและเกิดประโยชน์สูงสุด

2. ออกแบบหลักสูตรให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร

เมื่อได้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ความต้องการแล้ว การออกแบบหลักสูตร In house Training ควรเน้นที่การปรับปรุงทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในแต่ละวัน และควรคำนึงถึงเป้าหมายในระยะยาวขององค์กร หากองค์กรต้องการเติบโตไปในทิศทางใด ก็ควรมีการออกแบบการฝึกอบรมที่สนับสนุนการเติบโตนั้น เช่น การพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีสำหรับองค์กรที่กำลังทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน

3. เลือกวิทยากรหรือผู้ฝึกสอนที่มีความเชี่ยวชาญ

วิทยากรหรือผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์และความรู้ในด้านที่ต้องการอบรมถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ In house Training ประสบความสำเร็จ ผู้ฝึกสอนที่ดีไม่เพียงแค่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ยังสามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างน่าสนใจ และสามารถตอบคำถามหรือแก้ไขปัญหาในสถานการณ์เฉพาะขององค์กรได้ การใช้วิทยากรภายในที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาสามารถเติบโตภายในองค์กรได้

4. สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์

การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ In house Training มีประสิทธิภาพ ผู้จัดการหรือวิทยากรควรกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีส่วนร่วมในการสนทนาและการทำกิจกรรมร่วมกัน โดยไม่เพียงแค่ฟัง แต่ยังสามารถแสดงความคิดเห็นหรือแชร์ประสบการณ์ของตนได้ การเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนความคิดและไอเดียใหม่ๆ จะช่วยสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานได้จริง

5. ติดตามผลและประเมินความสำเร็จของการฝึกอบรม

การประเมินผลหลังจาก In house Training เป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการออกแบบและการจัดอบรมเอง การติดตามผลสามารถทำได้โดยการประเมินผลของพนักงานผ่านแบบสอบถาม การทดสอบทักษะ หรือการสังเกตการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงาน เช่น พนักงานนำสิ่งที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงหรือไม่ และมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นหรือไม่ การประเมินผลจะช่วยให้องค์กรเข้าใจว่าการอบรมให้ผลลัพธ์ที่ตรงตามเป้าหมายหรือไม่ และสามารถปรับปรุงหลักสูตรในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น

6. ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

In house Training ควรเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องในองค์กร การฝึกอบรมเพียงครั้งเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการพัฒนาทักษะในระยะยาว การจัดอบรมอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบจะช่วยให้พนักงานสามารถเติบโตและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมได้ดีขึ้น องค์กรควรสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านการอบรม การทำงานร่วมกัน หรือการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนรู้

บทสรุป: การนำ In house Training ไปสู่ความสำเร็จ

การทำให้ In house Training เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กรนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบและการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง การวิเคราะห์ความต้องการขององค์กร การเลือกวิทยากรที่เหมาะสม และการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การฝึกอบรมมีประสิทธิภาพ

และที่สำคัญการติดตามผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้องค์กรพัฒนาทักษะพนักงานได้อย่างเต็มที่และสามารถแข่งขันได้ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

คุณเบื่อหรือไม่? กับสิ่งเหล่านี้

การจัดเทรนนิ่งที่ ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน พนักงานขาดแรงจูงใจในการเข้าร่วม ไม่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง! ให้เราช่วยคุณสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพและน่าสนใจ ปรึกษา L&D Consultant ผู้เชี่ยวชาญของเรา รับการออกแบบ Training Roadmap ที่ตอบโจทย์องค์กรของคุณ เริ่มต้นการพัฒนาบุคลากรที่สร้างผลลัพธ์จริงตั้งแต่วันนี้

ปรึกษา L&D Consultant จาก The Blacksmith ฟรี! พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ คลิกลงทะเบียน

Scroll to Top